วัดเซนโซจิ (浅草寺, Sensoji) หรือวัดคิงริวซังเซนโซจิ (
金龍山浅草寺) เป็นวัดชื่อดังตั้งอยู่ในย่านอะซะคุสะ กล่าวกันว่าเป็นวัดที่เก่าแก่ที่สุด กล่าวกันว่ามีอายุมากกว่าหนึ่งพันปี และเป็นวัดที่มีความสำคัญมากที่สุดแห่งหนึ่งของโตเกียว เป็นหนึ่งในวัดดังสิบอันดับแรกที่ชาวญี่ปุ่นไปสักการะเพื่อเป็นศิริมงคลในเช้าวันปีใหม่ของทุก ๆ ปี และที่นี่ก็เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวหลายท่านที่แวะเวียนผ่านมาโตเกียว ต่างไม่พลาดที่จะแวะมาสักการะ และถ่ายรูปเป็นที่ระลึก จากรายงานของหนังสือพิมพ์ T
he Japan Times ในปี ค.ศ. 2014 สถิตินักท่องเที่ยวที่มาเยือนวัดเซนโซจิในแต่ละปี มีจำนวนถึง 30 ล้านคนต่อปี
นอกจากตัววัดสีแดงสดสร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบญี่ปุ่นซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระโพธิสัตว์กวนอิมแล้ว เอกลักษณ์อย่างหนึ่งของวัดนี้ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งหลาย คือซุ้มประตูวัดที่มีชื่อว่า คะมินะริมง (雷門) ชื่อแปลว่าประตูสายฟ้า หรือประตูอสุนี ซึ่งมีโคมแดงขนาดใหญ่ สูงถึง 5.5 ม. ชื่อประตูเขียนด้วยอักษรขนาดใหญ่สีดำกรอบขาวเป็นภาษาญี่ปุ่นว่า 雷門 นอกจากนั้นในบริเวณวัดยังมีเจดีย์ห้าชั้นสีแดง มีร้านรวงตั้งเรียงรายเป็นแถวยาวอยู่หน้าวัดจำหน่ายเครื่องรางของขลัง และสินค้าที่ระลึกสไตล์ญี่ปุ่น และมีศาลเจ้าอะซะคุสะ
 |
|
วัดเซนโซจิแห่งนี้ตั้งอยู่ใกล้ ๆ กับแม่น้ำสุมิดะ มีเรื่องเล่าที่บ่งบอกถึงที่มาของวัดแห่งนี้ว่า ในอดีตช่วงปี ค.ศ. 628 มีชาวประมงสองพี่น้องตระกูลฮะมะคิริ ซึ่งทำมาหากินด้วยการหาปลาบริเวณแม่น้ำสุมิดะ แต่มีวันหนึ่ง ไม่ทราบว่าด้วยเหตุใดสองพี่น้องฮะมะคิริ ไม่สามารถจับปลาได้แม้แต่ตัวเดียว ทั้งสองท้อแท้ถึงขั้นอธิษฐานขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยเหลือ หลังจากอธิษฐานแล้วตั้งใจหาปลาต่อไป ทั้งสองกับพบเจอเรื่องประหลาดใจเมื่อพระพุทธรูปทองคำขนาด 5 นิ้วได้ติดแหที่เขาทั้งสองลากขึ้นมา พี่น้องฮะมะคิริจึงนำพระพุทธรูปไปปรึกษา นายนะคะโมะโตะซึ่งเป็นผู้ใหญ่บ้าน นายนะคะโมะโตะได้ฟังเรื่องราวจากชายทั้งสอง ได้รู้สึกถึงความศักดิ์สิทธิ์จึงได้ใช้บ้านของตนทำเป็นที่ประดิษฐานถวายพระพุทธรูปกวนอิมองค์นี้
เวลาเปิดทำการ
เมษายน - กันยายน 6:00-17:00 น.
ตุลาคม - มีนาคม 9:30-22:30 น.
ค่าเข้าชม
ฟรี
การเดินทาง
ปักหมุดแผนที่ด้านล่างใน Google Map จากลิงค์ด้านล่างได้เลยครับ
https://goo.gl/maps/AAoRotTStYT2
สามารถโดยสารรถไฟ Tokyo Metro มาลงที่สถานี Azakusa (浅草駅) ออกสถานีมา เปิดกูเกิลแมพ แล้วเดินตาม แป๊บเดียวถึงครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น